
ชิปเซ็ต (Chipset)
เมนบอร์ดจะมีความสามารถในการรองรับกับอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับชิปเซ็ตเป็นหลัก สำหรับหน้าที่ของชิปเซ็ต คือ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่บนเมนบอร์ด สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ หลักๆ คือ
1.1 NorthBridge
1.1 NorthBridge
ชิปเซ็ตที่กำหนดว่าเมนบอร์ดของคุณนั้น มีความสามารถในการรองรับความเร็วของซ๊พียูได้ในระดับไหน หรือ สนับสนุนหน่วยความจำประเภทไหนได้บ้าง โดยชิปเซ็ตนี้มีหน้าที่ในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานด้วยความเร็วระบบบัสสูงๆ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู หน่วยความจำ และการ์ดแสดงผล
1.2 SouthBridge
1.2 SouthBridge
ทำหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วระบบบัสไม่สูงมากนัก เช่น พอร์ต IDE ระบบบัส PCI และอื่นๆ โดยชิปเซ็ต SouthBridge ที่เด่นๆ ในปัจจุบัน คือ ICH4 ของอินเทล ซึ่งเป็นการรวมความสามารถของ ยูเอสบี 2.0 และ ATA 100 มาไว้ในตัวด้วย ส่วนถ้าหากเป็นของทางค่าย SiS ก็จะมีตัว SiS961และ VIA VT8233A ของฝั่ง VIA
การซื้อ Mainboard เราควรดูว่าเราจะใช้กับ CPU อะไร เพื่อจะได้เลือกซื้อ SOCKET ได้ถูกต้อง และที่สำคัญต้องดูว่า Chipset บน Mainboard เป็น Chipset อะไรเพื่อจะได้ใช้งานกับ CPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การซื้อ Mainboard เราควรดูว่าเราจะใช้กับ CPU อะไร เพื่อจะได้เลือกซื้อ SOCKET ได้ถูกต้อง และที่สำคัญต้องดูว่า Chipset บน Mainboard เป็น Chipset อะไรเพื่อจะได้ใช้งานกับ CPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
IDE Connector
เป็นส่วนที่ใช้ต่อกับอุปกรณ์จำพวกดิสก์ไดรฟ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอม ดีวีดีรอม หรือ ฟลอปปี้ดิสก์ ซึ่งอินเทอร์เฟซของ IDE ที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับดิสก์ไดรฟ์นี้ ปัจจุบันได้มีการพัฒนามาถึงเทคโนโลยี ATA 100 และ ATA 133 แล้ว ซึ่งจะมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ที่ 100 และ 133 เมกะไบต์ต่อวินาที สำหรับการทำงานของ IDE นี้ ถูกควบคุมโดยชิปเซ็ตด้าน SouthBridge และในอนาคตก็จะมีเทคโนโลยี Serial ATA ออกมาแทนเทคโนโลยี IDE แล้วด้วย เพราะเทคโนโลยี Serial ATA นี้ สามารถพัฒนาให้มีความเร็วในการ รับ-ส่ง ข้อมูลได้มากกว่า 150 เมกะไบต์ต่อวินาที
พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกต่างๆ
พอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกต่างๆ
พอร์ตต่างๆ เหล่านี้ จะอยู่ด้านหลังของเคส ในกรณีที่คุณประกอบเมนบอร์ดลงไปในเคสแล้ว โดยประกอบด้วย พอร์ต PS/2 ที่ใช้สำหรับต่อเมาส์ และคีย์บอร์ด อีกทั้งยังมีพอร์ต Serial หรือ พอร์ตอนุกรม ซึ่งเป็นคอนเน็กเตอร์แบบ DB-9 มี 9 ขา ต่อมาก็เป็นพอร์ตพาราเรลสำหรับต่อพรินเตอร์ หรือ สแกนเนอร์ หากเป็นเมนบอร์ดที่มีระบบเสียงออนบอร์ด ก็จะเพิ่มพอร์ต Audio มาให้ด้วย หรือถ้าเป็นระบบการแสดงผลออนบอร์ด ก็จะเพิ่มพอร์ต DB-15 สำหรับต่อกับจอมอนิเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีพอร์ต ยูเอสบี ซึ่งแบ่งเป็น USB เวอร์ชัน 1.1 ที่มีความเร็ว 12 เมกะบิตต่อวินาที และ USB เวอร์ชัน 2.0 มีความเร็ว 480 เมกะบิตต่อวินาที
ฮับฮับช่วยให้คอมพิวเตอร์ต่างๆ บนเครือข่ายสามารถสื่อสารกันได้ คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะต่อเข้ากับฮับโดยสายเคเบิลอีเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านฮับ ฮับไม่สามารถระบุแหล่งข้อมูลหรือปลายทางที่กำหนดของข้อมูลที่ได้รับ ดังนั้นจึงส่งข้อมูลไปให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับฮับ ซึ่งรวมถึงเครื่องที่ส่งข้อมูลดังกล่าวด้วย ฮับสามารถรับหรือส่งข้อมูล แต่ไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ฮับทำงานช้ากว่าสวิตซ์ ฮับมีความซับซ้อนน้อยมากและมีราคาถูกที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ทั้งสามนี้
เครือข่ายที่ใช้ฮับ
แคช
แรมและกราฟฟิกการ์ด ชิปเซ็ตส่วนนี้เรียก North Bridge กับส่วนควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ความเร็วต่ำหรือใช้สำหรับต่ออุปกรณ์I/Oต่างๆ เช่นIDE/SATA Controller ชิปเสียง ชิปเน็ตเวิร์ก บออส พอร์ตหรือคอนเน็คต่างๆ และช่องเสียบการ์ด เราเรียกSouth Briodge แต่ชิปเซ็ตของIntelตั้งแต่รุ่นi810เป็นต้นมาด้มีการออกแนวคิดแบบใหม่ๆมาใช้ดยทางIntel ด้คิดชิปเซ็ตน่าจะมีส่วนช่วยในการประมวลผลคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงถ้าหากออกแบบชิปเซ็ตให้มีตัวประมวลผลภาพและเสียงจึงด้เปลี่ยนจากเดิมที่เคยแบ่งชิปเซ็ตออกเป็น North Bridge และ South Briodge กลายมาเป็นสถาปัตยกรรมแบบฮับเร่งความเร็ว หรือ Accelerated Hub Architecture ซึ่งประกอบด้วยส่วนสำคัญสามส่วนคือ MCH ถ้ามีตัวประมวลผลด้วยจะเรียกGMCH / ICH /FWH ที่ด้รวมการเชื่อมต่อในรูปแบบและความเร็วต่างๆเข้าด้วยกัน



